คุณสมบัติของไม้
คุณสมบัติของไม้ทางฟิสิกส์
โดย ผศ.ทรงกลด จารุสมบัติ
คุณสมบัติของไม้ Wood properties
ในการนำไม้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เราจำเป็นต้องรู้ถึงคุณสมบัติของไม้ เพราะการรู้ถึงคุณสมบัติของไม้นัน้จะทำให้เราเลือกใช้ไม้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติของไม้ Wood properties
ในการนำไม้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เราจำเป็นต้องรู้ถึงคุณสมบัติของไม้ เพราะการรู้ถึงคุณสมบัติของไม้นัน้จะทำให้เราเลือกใช้ไม้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
1. คุณสมบัติทางฟิสิกส์
· ความแน่น (Density)
· ค่าความถ่วงจำเพาะ (Specific Gravity)
· ความชิ้น (Moisture Content)
· การหดตัวและพองตัว (Shrinkage and Swelling)
· ความแน่น (Density)หมายถึง มวลของไม้ต่อหน่วยปริมาตร มีหน่วยเป็นกรัม/ลบ.ซม. หรือ กิโลกรัม/ลบ.ม.
การหาค่าความหนาแน่นของ = มวล
ปริมาตร
โดยปกติจะหาค่าความแน่นของไม้ ที่ไม้มีความชิ้น 12%
ปริมาตร
โดยปกติจะหาค่าความแน่นของไม้ ที่ไม้มีความชิ้น 12%
ค่าความแน่นของไม้จะเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อคุณสมบัติของไม้
· ค่าความถ่วงจำเพาะ (Specific Gravity)หมายถึงน้ำหนักอบแห้งของเนื้อไม้หารด้วย น้ำหนักของน้ำที่มีปริมาตรเท่ากับปริมาตรของไม้เมื่ออบแห้งแล้วหรือเมื่อสด
ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ไม้มีความแน่นและค่าความถ่วงจำเพาะไม่เท่ากัน คือ
ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ไม้มีความแน่นและค่าความถ่วงจำเพาะไม่เท่ากัน คือ
§ สภาพภูมิอากาศของไม้ที่เจริญเติบโต
§ สภาพภูมิประเทศของไม้ที่เจริญเติบโต
§ ชนิดไม้
§ ความชื้น
§ อุณหภูมิ
§ กระพี้ และแก่น
§ อัตราการเจริญเติบโต
§ สารแทรก
§ ความชื้น (Moisture Content)ความชิ้นในเนื้อไม้ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญในการนำไม้ไปใช้ประโยชน์ ความชื้นในเนื้อไม้มีด้วยกัน 2 ส่วนคือ น้ำภายในผนังเซลล์ ที่เรียกว่า Bound Water และ น้ำที่อยู่ในช่องว่างภายในเซลล์ ที่เรียกว่า Free Water เมื่อไม้แห้งน้ำในช่องว่างภายในเซลล์จะออกมาก่อน ปริมาณความชื้นของเนื้อไม้ ขณะที่ผนังเซลล์มีน้ำอย่างอิ่มตัวแต่น้ำที่อยู่ในช่องว่างภายในเซลล์ไม่มีนั้น เรียกว่า จุดหมาด (Fiber Saturation Point , FSP) ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่สำคัญ เพราะน้ำในช่องว่างภายในเซลล์จะมีผลต่อน้ำหนักของไม้เท่านั้น แต่น้ำภายในผนังเซลล์จะมีผลต่อการหดตัว และพองตัวของเนื้อไม้ ซึ่งจุดหมาดของไม้จะมีค่าระหว่าง 20-30%
ภาพแสดงน้ำภายในผนังเซลล์ และน้ำในช่องว่างภายในเซลล์
การหาค่าความชื้นของเนื้อไม้มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ - วิธีอบแห้ง (Ovendry Method) MC = 100(Wm-Wo)
Wo
MC = ปริมาณความชื้น มีหน่วยเป็น เปอร์เซ็นต์
Wm = น้ำหนักของไม้ที่มีความชื้น
Wo = น้ำหนักอบแห้งของไม้
Wo
MC = ปริมาณความชื้น มีหน่วยเป็น เปอร์เซ็นต์
Wm = น้ำหนักของไม้ที่มีความชื้น
Wo = น้ำหนักอบแห้งของไม้
- วิธีใช้เครื่องวัดความชื้น (Electrical Moisture Meter)
ภาพแสดงเครื่องวัดความชื้น
ในเรื่องของความชื้นในเนื้อไม้ ยังมีความชื้นของไม้อีกประเภทหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ค่าความชื้นสมดุล ดังนั้นจึงควรทราบว่าที่จะนำไม้ไปใช้นั้น มีค่าความชื้นสมดุลเท่าใด เพื่อลดปัญหาการหดตัวและการพองตัวของไม้
ผลของค่าความชื้นต่อคุณสมบัติอื่นของไม้
- กลสมบัติของไม้จะเพิ่มขึ้นถ้าค่าของไม้ลดลง - ความทนทานต่อแมลง และเห็ดราจะดีขึ้นเมื่อความชื้นของไม้ลดลง
- ค่าการติดกาวจะดีขึ้น เมื่อค่าความชื้นของไม้ลดลง
- ค่าความเป็นฉนวนไฟฟ้าจะลดลงเมื่อค่าความชื้นของไม้เพิ่มขึ้น
· การหดตัวและพองตัว (Shrinkage and Swelling)
· การหดตัวและพองตัว (Shrinkage and Swelling)
เมื่อเนื้อไม้เกิดการสูญเสียความชื้นในผนังเซลล์ก้จะเกิดการหดตัว และในทางตรงกันข้าม เมื่อเนิ้อไม้มีปริมาณความชื้นเพิ่มขึ้นในระดับที่ต่ำกว่าจุดหมาด ไม้ก็จะพองตัว ดังนั้นเนื้อไม้จะมีปริมาตรเล็กที่สุดในขณะที่ไม่มีความชื้นอยู่ในเนื้อไม้เลย และจะมีปริมาตรสูงสุด เมื่อมีน้ำอยู่อย่างอิ่มตัวในผนังเซลล์การหดตัวและการพองตัวของเนื้อไม้จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงความชื้นของเนื้อไม้ในช่วงที่ต่ำกว่าจุดหมาด
ผลของค่าความชื้นต่อคุณสมบัติอื่นของไม้
- กลสมบัติของไม้จะเพิ่ขึ้นถ้าค่าของไม้ลดลง
- ความทนทานต่อแมลง และเห็ดราจะดีขึ้นเมมื่อความชื้นของไม้ลดลง
- ค่าการติดกาวจะดีขึ้น เมื่อค่าความชื้นของไม้ลดลง
- กลสมบัติของไม้จะเพิ่ขึ้นถ้าค่าของไม้ลดลง
- ความทนทานต่อแมลง และเห็ดราจะดีขึ้นเมมื่อความชื้นของไม้ลดลง
- ค่าการติดกาวจะดีขึ้น เมื่อค่าความชื้นของไม้ลดลง
- ค่าความเป็นฉนวนไฟฟ้าจะลดลงเมื่อค่าความชื้นของไม้เพิ่มขึ้น
· การหดตัวและพองตัว (Shrinkage and Swelling)
เมื่อเนื้อไม้เกิดการสูญเสียความชื้นในผนังเซลล์ก้จะเกิดการหดตัว และในทางตรงกันข้าม เมื่อเนิ้อไม้มีปริมาณความชื้นเพิ่มขึ้นในระดับที่ต่ำกว่าจุดหมาด ไม้ก็จะพองตัว ดังนั้นเนื้อไม้จะมีปริมาตรเล็กที่สุดในขณะที่ไม่มีความชื้นอยู่ในเนื้อไม้เลย และจะมีปริมาตรสูงสุด เมื่อมีน้ำอยู่อย่างอิ่มตัวในผนังเซลล์การหดตัวและการพองตัวของเนื้อไม้จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงความชื้นของเนื้อไม้ในช่วงที่ต่ำกว่าจุดหมาด
การคำนวณหาการหดตัวและพองตัว
การหดตัว,การพองตัว (%)= ขนาด/ปริมาตรที่เปลี่ยนแปลง x 100 ขนาด/ปริมาตรที่เริ่มต้น
ภาพแสดงการหดตัวและพองตัวของไม้ในด้านต่างๆ
การหดตัว และการพองตัวของไม้จะขึ้นอยู่กับทิศทางตามลักษณะโครงสร้างของเนื้อไม้ (แนวรัศมี , แนวสัมผัส และตามยาว โดยปกติการหดตัวทางด้านความยาวจะมีค่าน้อยที่สุด คือ 0.1 – 0.3% ทางด้านรัศมี 3-6% และทางด้านสัมผัสสูงสุดคือ 6-12%
ที่มา http://www.baannatura.com/th/mat/content/detail/116.html
คำถามชวนคิด
1.คุณสมบัติทางฟิสิกส์ มีอะไรบ้าง
ตอบ · ความแน่น (Density)
ตอบ มวลของไม้ต่อหน่วยปริมาตร มีหน่วยเป็นกรัม/ลบ.ซม. หรือ กิโลกรัม/ลบ.ม.
3.การหาค่าความหนาแน่นของ คือ
ตอบ มวล
ปริมาตร4.ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ไม้มีความแน่นและค่าความถ่วงจำเพาะไม่เท่ากัน คืออะไร
ตอบ สภาพภูมิอากาศของไม้ที่เจริญเติบโต
ตอบ คุณสมบัติของไม้จะเพิ่มขึ้นถ้าค่าของไม้ลดลง
ความทนทานต่อแมลง และเห็ดราจะดีขึ้นเมมื่อความชื้นของไม้ลดลง
ค่าการติดกาวจะดีขึ้น เมื่อค่าความชื้นของไม้ลดลง
คำถามชวนคิด
1.คุณสมบัติทางฟิสิกส์ มีอะไรบ้าง
ตอบ · ความแน่น (Density)
· ค่าความถ่วงจำเพาะ (Specific Gravity)
· ความชิ้น (Moisture Content)
· การหดตัวและพองตัว (Shrinkage and Swelling)
2.ความแน่น (Density)หมายถึงอะไรตอบ มวลของไม้ต่อหน่วยปริมาตร มีหน่วยเป็นกรัม/ลบ.ซม. หรือ กิโลกรัม/ลบ.ม.
3.การหาค่าความหนาแน่นของ คือ
ตอบ มวล
ปริมาตร4.ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ไม้มีความแน่นและค่าความถ่วงจำเพาะไม่เท่ากัน คืออะไร
ตอบ สภาพภูมิอากาศของไม้ที่เจริญเติบโต
สภาพภูมิประเทศของไม้ที่เจริญเติบโต
ชนิดไม้
ความชื้น
อุณหภูมิ
อัตราการเจริญเติบโต
สารแทรก
ความชื้น (Moisture Content)
5.ผลของค่าความชื้นต่อคุณสมบัติอื่นของไม้มีอะไรบ้างตอบ คุณสมบัติของไม้จะเพิ่มขึ้นถ้าค่าของไม้ลดลง
ความทนทานต่อแมลง และเห็ดราจะดีขึ้นเมมื่อความชื้นของไม้ลดลง
ค่าการติดกาวจะดีขึ้น เมื่อค่าความชื้นของไม้ลดลง
Comments
Post a Comment